ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ขยาย “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน”

ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ขยาย “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน”

           EXIM BANK สนับสนุนสำนักงานประกันสังคม ส่งเสริมการจ้างงานของสถานประกอบการโดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม โดยจัดทำโครงการ “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” วงเงินสูงสุด 15 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำสุด 3% ต่อปี ระยะเวลากู้สูงสุด 7 ปี



           นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ รวมถึงสภาพคล่องของสถานประกอบการ โดยเฉพาะโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งอาจนำไปสู่การลดหรือเลิกจ้างแรงงาน อันจะเป็นการซ้ำเติมเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนยิ่งขึ้นไปอีก EXIM BANK จึงเข้าร่วมสนับสนุน “โครงการสินเชื่อเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” ของสำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน วงเงินรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสภาพคล่องให้สถานประกอบการดำรงอยู่ได้ รวมทั้งสามารถรักษาการจ้างงาน เพื่อผลิตและจำหน่ายสินค้าได้อย่างต่อเนื่องท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจปี 2563 ส่งผลให้แรงงานในสถานประกอบการยังคงมีงานทำและอยู่ในระบบประกันสังคมได้ต่อไป

           สถานประกอบการที่ขึ้นทะเบียนกับ สปส. สามารถขอรับบริการ “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน” วงเงินกู้สูงสุด 15 ล้านบาท มี 2 ทางเลือก คือ

           1. สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน Series 1 เงินกู้ระยะเวลา 3 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อยู่ที่ 3% ต่อปี กรณีมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน

           2. สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงาน Series 2 เงินกู้ระยะเวลา 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อยู่ที่ 3% ต่อปี ปีที่ 4-7 อยู่ที่ Prime Rate -1.25% ต่อปี หรือประมาณ 4.5% ต่อปี (Prime Rate ณ 14 เมษายน 2563 เท่ากับ 5.75%)

           ทั้งนี้ สามารถใช้หนังสือค้ำประกันของบรรษัทสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) เป็นหลักประกันร่วมได้ ติดต่อขอรับบริการได้ที่ EXIM BANK ตั้งแต่บัดนี้-30 ธันวาคม 2563 สอบถามโทร. 0 2617 2111 ต่อ 3510-2

           “สินเชื่อเอ็กซิมเพื่อส่งเสริมการจ้างงานเป็นมาตรการหนึ่งของ EXIM BANK ในการเยียวยาความเดือดร้อนของภาคธุรกิจ ทั้งนายจ้างและลูกจ้าง นอกเหนือจากมาตรการอื่นๆ ที่ EXIM BANK ขานรับนโยบายภาครัฐและร่วมมือกับภาคธุรกิจเพื่อช่วยเหลือให้ทุกภาคส่วนผ่านความยากลำบากในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 นี้ไปได้” นายพิศิษฐ์กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

  • ส่วนสื่อสารองค์กร ฝ่ายพัฒนาความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร
  • โทร. 0 2271 3700, 0 2278 0047, 0 2617 2111 ต่อ 4120-4

 


 

ที่มา : https://www.thaigov.go.th/news/contents/details/29043